อัพเดทคลิปวิดีโอโปรโมท iPhone 5 (ไอโฟน 5) จาก Apple Subtitle ภาษาไทย thai โดยทีมงาน techmoblog ครับ เราเห็นว่าน่าสนใจจึงนำมาใส่ sub ภาษาไทยให้ทุกท่านได้ชมกันครับ ซึ่งภายในคลิปจะกล่าวถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบ iPhone 5 และการปรับเปลี่ยนที่สำคัญต่างๆ ทั้งในเรื่องของการออกแบบและชิ้นส่วนภายใน นอกจากนั้น ยังสรุปถึงการใช้งาน Feature อื่นๆ ที่น่าสนใจรวมถึงการถ่ายภาพ Panorama ด้วยครับ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจากคลิปวีดีโอนะครับ
หลังจากที่ iPhone 5 (ไอโฟน 5) เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กันยายน 2555 ที่ผ่านมาเป็นวันแรก ใน 9 ประเทศ ซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ทำให้ในตอนนี้ iphone 5 (ไอโฟน5) เครื่องหิ้วจากต่างประเทศ ได้ทยอยนำมาขายในไทยกันอย่างมากมาย และราคา iPhone 5 (ราคา ไอโฟน 5) เครื่องหิ้ว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันละ 1,000 - 2,000 บาท ตามความต้องการซื้อ iphone5 (ไอโฟน5) ที่มีอย่างมากมายนั่นเอง โดยในวันที่ 28 กันยายนนี้ iphone 5 (ไอโฟน 5) จะเปิดจำหน่ายในรอบที่ 2 อีก 22 ประเทศด้วย ซึ่งแน่นอนครับว่า ยังไม่มีรายชื่อของประเทศไทยเหมือนเช่นเคย
และตามคำสัญญาครับ เมื่อเว็บไซต์ techmoblog ได้มีโอกาส สัมผัส iPhone 5 (ไอโฟน 5) เครื่องจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่รอช้า รีบนำบทความ รีวิว iPhone 5 (iphone 5 review) มาให้ได้อ่านกัน โดยจะเป็นการเจาะลึกทุกแง่มุมของ iphone5 (ไอโฟน 5) ว่า ดีขึ้นกว่า iPhone 4S จริงหรือไม่ บอดี้แบบใหม่บน iphone 5 (ไอโฟน5) นั้น สวยขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า มากน้อยแค่ไหน ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ควรจะเปลี่ยนมาใช้งาน iPhone5 (ไอโฟน 5) เสียที ข้อดีข้อเสีย ของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) มีอะไรบ้างบทความนี้ จะเป็นบทความที่ช่วยให้ท่าน ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ควรจะซื้อ iPhone5 (ไอโฟน 5) ดีหรือไม่ ไปชมพร้อมๆ กันครับ
สเปค iPhone 5 (ไอโฟน 5)
- จอแสดงผลกว้าง 4 นิ้ว แบบ Retina Display Capacitive Touchscreen ความละเอียด 1136x960 พิกเซล (326 ppi)
- ระบบประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.0 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) PowerVR SGX 543MP3
- ระบบปฏิบัติการ iOS 6
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1GB
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD 1080p
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- รองรับเครือข่าย 2G, 3G และ 4G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.0, GPS (A-GPS)
- มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Black & Slate และ สีขาว White & Silver
- ระบบประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.0 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) PowerVR SGX 543MP3
- ระบบปฏิบัติการ iOS 6
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1GB
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD 1080p
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- รองรับเครือข่าย 2G, 3G และ 4G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.0, GPS (A-GPS)
- มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Black & Slate และ สีขาว White & Silver
แกะกล่อง iPhone 5 (ไอโฟน 5)
สำหรับ กล่องของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้น สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็คือ กล่องของ iphone 5 (ไอโฟน5) จะมีการแยกสี โดยสำหรับรุ่นสีดำ ตัวกล่องจะเป็นสีดำ และรุ่นสีขาว ตัวกล่องจะเป็นสีขาวนั่นเองครับ โดยขนาดกล่องนั้นถือว่าใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย เพื่อรองรับหน้าจอที่มีขนาดยาวขึ้นกว่าเดิม และตัวกล่องยังคงใช้วัสดุเดียวกันกับกล่องของ iPhone รุ่นก่อนหน้าครับ
ภายในกล่องนั้นจะประกอบไปด้วย ที่ชาร์ตแบตเตอรี่แบบ Wall charge, สาย USB แบบใหม่ Lightning connector ขนาด 8-pin, อุปกรณ์สำหรับถอดถาดซิมการ์ดแบบ Nano-SIM card รวมไปถึง Apple EarPods และ คู่มือการใช้งาน
สำหรับ iPhone 4S นั้น ชุดหูฟังจะไม่ได้อยู่ในแพคเกจที่เรียบร้อยแบบนี้นะครับ แต่ใน iphone5 (ไอโฟน5) นั้น Apple EarPods จะถูกบรรจุอยู่ในแพคเกจที่สวยงาม ภายในกล่องของ iPhone 5 อีกที ซึ่งสามารถเก็บเมื่อไม่ใช้งานได้ง่าย และเป็นระเบียบอีกด้วย
และนี่คือ Dock Connector แบบใหม่ ที่มีชื่อว่า Lightning connector บรรจุอยู่ภายในกล่องเช่นเดียวกัน
เนื่องจากเครื่องที่ทีมงานได้นำมาทดสอบในครั้งนี้ เป็นเครื่องที่วางจำหน่ายในต่างประเทศ จึงทำให้ Adapter เป็นไปตามประเทศนั้นๆ แต่สำหรับรุ่นที่วางขายในไทย ก็จะเป็น Adapter ที่ใช้งานในประเทศไทย ได้ตามปกติ
รูปลักษณ์ และการออกแบบ iPhone 5 (ไอโฟน 5)
สำหรับรุ่นที่ทีมงานได้นำมาทำการทดสอบ ในวันนี้คือรุ่น iPhone 5 (ไอโฟน 5) สีดำ Black & Slate ความจุ 16 GB โดยตัวเครื่องที่อยู่ภายในกล่อง จะมีพลาสติกใส ติดอยู่ที่ตัวเครื่อง ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
ด้านหลังของตัวเครื่อง จะเป็นแบบ ทูโทน (Two-tone) โดยสีดำ ในส่วนขอบบนล่าง จะเป็นกระจก
ส่วนตรงกลางตัวเครื่องจะเป็น Anodized Aluminium ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกันกับที่ใช้บน MacBook นั่นเอง
สำหรับด้านบนของตัวเครื่อง จะมีแค่เพียงปุ่ม เปิดปิด เครื่อง เท่านั้น
โดยพอร์ตเชื่อมต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรได้ถูกย้ายไปอยู่ด้านล่างแทน
ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง เรียงจากซ้ายไปขวา ก็จะเป็น พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร ตามมาด้วย Build-in Microphone และ พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และชาร์จไฟ แบบใหม่ (Lightning connector) และสุดท้ายคือ Build-in Speaker ครับ
สำหรับด้านข้างฝั่งซ้าย ปุ่มที่เห็นเป็นสี่เหลี่ยมเรียวๆ อยู่นั้น สามารถทำงานได้ 2 แบบขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักครับ โดยสามารถเป็นได้ทั้ง ปุ่มเปิด-ปิดเสียง หรือล็อคการหมุนของหน้าจอ (rotate) ส่วน 2 ปุ่มกลมๆ นั้น เป็นปุ่มสำหรับ เพิ่มลดเสียง เช่นเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้า
ส่วนฝั่งขวานั้นจะมีเพียงช่องสำหรับ ใส่ซิมการ์ด โดยซิมที่ใช้บน iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้นก็จะเป็นแบบ Nano-Sim นั่นเองครับ
สำหรับกล้องด้านหน้านั้น ความละเอียดอยู่ที่ 1.2 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งาน FaceTime ความละเอียดที่ 720p มีเซนเซอร์รับภาพแบบ Backside illumination ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด ระบบ Face detection ตรวจจับตำแหน่งของใบหน้า นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งาน FaceTime บนเครือข่าย 3G และ 4G ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ส่วนของลำโพงสำหรับสนทนา ยังเป็นระบบแบบตัดเสียงรบกวน ทำให้สามารถได้ยินเสียงปลายสายได้ชัดเจนครับ
ในส่วนนี้ก็จะเป็น กล้องดิจิตอล iSight ด้านหลังของตัวเครื่อง ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และไมโครโฟนสำหรับการบันทึกเสียง ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง ตัวเลนส์ และไฟแฟลชครับ นอกจากนี้ iphone5 (ไอโฟน 5) ยังสามารถถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียดระดับ Full HD 1080p ครับ
EarPods ชุดหูฟังใหม่ล่าสุดจาก Apple
สำหรับชุดหูฟังจาก Apple นั้นถือว่าเป็นระยะเวลานานพอสมควร ที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแน่นอนครับว่า ในรุ่นใหม่นี้ ทาง Apple ได้มีการออกแบบ ชุดหูฟังใหม่ทั้งหมด โดยมีการทดสอบ จากรูปแบบใบหู ของผู้ใช้ กว่า 124 แบบ จากผู้ใช้งานกว่า 1,000 คน เพื่อให้ได้รูปทรงที่สามารถเข้ากันได้กับ ผู้ใช้ทุกคนนั่นเอง
แจ็ค สำหรับเชื่อมต่อกับ พอร์ตหูฟัง ก็เป็นขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า
ขนาดของ รีโมท มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยครับ จากภาพ ด้านล่างจะเป็นของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) และด้านบน เป็น ชุดหูฟังรุ่นเก่า
ด้านหลังของรีโมท จะเห็นได้ว่าไม่มีช่องที่ถูกเจาะไว้เป็น ไมโครโฟน แบบในรุ่นเก่า โดยในรุ่นใหม่นี้ จะเรียบไปเลยครับ โดยจะมีการสกรีนลายเป็นรูปไมโครโฟนเอาไว้
สำหรับจุดเด่นในเรื่องของเสียง ในการปรับปรุงครั้งนี้ ทาง Apple ได้มีการเน้นให้ได้เสียงที่มีความใส และ มีน้ำหนักของ เสียงเบส มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ หลายๆ ท่านที่เคยใช้ หูฟังจาก Apple อาจจะรู้สึกว่า เสียงเบสนั้นยังน้อยไป และออกไปทางเสียงแหลมซะมากกว่า ซึ่งแน่นอนครับว่า แต่ละคนนั้น มีรสนิยมในการฟังเพลงที่ต่างกัน หลายๆ คนอาจจะไม่ชอบเสียงเบสมากนัก แต่บางท่านก็อาจจะชอบ ซึ่งตรงนี้ ทีมงานก็คงไม่สามารถฟันธงได้นะครับว่า จะถูกใจใครหลายคนหรือไม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้เสียง นั่นก็คือ ความรู้สึก สบายหลังจากที่ใส่ ที่ทางแอปเปิ้ลได้พยายามออกแบบให้เราได้รู้สึกไม่อึดอัดเวลาใส่นั่นเองครับ
การเปลี่ยนแปลงทางด้าน ฮาร์ดแวร์ ของ iPhone 5 (ไอโฟน 5)
ชิปประมวลผล Apple A6
สำหรับบน iPhone 5 (ไอโฟน 5) ถือเป็นครั้งแรก ที่ทาง Apple ได้มีการลงมือ ปรับแต่ง หน่วยประมวลผลด้วยตัวเอง และการที่ทางแอปเปิ้ลลงมือทำเองนั้นจะช่วยให้ ความเข้ากันได้ ระหว่าง หน่วยประมวลผล และความสามารถของตัวเครื่อง รวมไปถึงความเข้ากันได้ระหว่าง หน่วยประมวลผล และ ระบบปฏิบัติการ นั้นดียิ่งขึ้น และถึงแม้ว่า หน่วยประมวลผลของ iphone5 (ไอโฟน5) จะเป็นแบบ Dual-Core processor ความเร็ว 1GHz แต่กลับสามารถทำความเร็วได้มากกว่า iPhone 4S ถึง 2 เท่า
หน้าจอแบบ Retina display ขนาด 4 นิ้ว
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไม Apple จึงเลือกที่จะขยายหน้าจอให้ยาวขึ้น แทนที่จะทำให้ใหญ่ขึ้นเหมือนรุ่นอื่นๆ ในตลาด แต่คำตอบของทีมดีไซน์ของ Apple ก็จะเป็นในเรื่องของการที่เราจะยังคงสามารถใช้งาน iPhone ด้วยมือเดียวได้อยู่นั่นเอง ซึ่ง Apple ได้ให้เหตุผลว่า นิ้วโป้งของเรานั้นสามารถเคลื่อนที่ได้บนความยาวที่สูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าได้ แต่หากหน้าจอมีความกว้างขึ้น อาจจะทำให้เราใช้งานด้วยมือเดียวได้ยากลำบากยิ่งขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนที่ของนิ้วโป้งไปทางด้านกว้าง จะทำได้ลำบากขึ้นนั่นเอง
iPhone 5 รองรับการเชื่อมต่อแบบ 4G LTE
สำหรับ iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้น สามารถใช้งาน การเชื่อมต่อแบบ 4G LTE ได้แล้ว โดยสามารถทำความเร็วได้ถึง 100Mbps กันเลยทีเดียว แต่ถึงแม้ว่า 4G นั้นจะยังไม่ได้มีการเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการในประเทศไทยก็ตาม แต่การที่ตัวเครื่องนั้นรองรับ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่น ที่มีไว้เตรียมพร้อมสำหรับ อีกขั้นของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายในไทยครับ
iPhone 5 กับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น
ด้วยตัวเครื่องที่มีความยาวมากขึ้น จึงทำให้มีพื้นที่สำหรับ ติดตั้งแบตเตอรี่ที่มากขึ้น จึงทำให้ทาง Apple ได้มีการปรับขนาด แบตเตอรี่ ให้ใหญ่ขึ้น แต่แน่นอนครับว่า ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ยิ่งต้องการใช้พลังงานของแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น แต่ระยะเวลาการใช้งานเมื่อชาร์จเต็มนั้นพอๆ กับ iPhone 4S นั่นเอง
กล้องด้านหลังแบบ iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ถูกออกแบบใหม่
ถึงแม้ว่ากล้องบน iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซลเท่ากับ iPhone 4S แต่ทาง Apple นั้นได้มีการออกแบบ ตัวกล้องใหม่ทั้งหมด โดยเน้นให้มีความบางที่มากกว่าเดิม และมีการเปลี่ยน Cover ของ เลนส์ด้วยวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ด้วยความสามารถของ ชิปประมวลผล Apple A6 ที่มีการปรับแต่งให้มีการใช้งานร่วมกับการถ่ายภาพที่ดียิ่งขึ้น ยิ่งช่วยให้ภาพที่ได้จากการถ่ายด้วย iphone 5 นั้นดีขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ กล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลนี้ ยังมีฟีเจอร์การทำงานเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เซนเซอร์รับภาพแบบ Backside illumination ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด ฟิลเตอร์แบบ Hybrid IR เลนส์ทั้งหมด 5 ชิ้น และ รูรับแสง กว้างสูงสุดที่ F/2.4 นอกจากนี้ ชิปเซ็ท Apple A6 นั้น ยังช่วยให้การถ่ายภาพเร็วขึ้นอีกด้วยครับ
ลองมาดูตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กันครับ ซึ่งสามารถคลิ๊กที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่ได้ โดยภาพขนาดเต็มนั้น เป็นภาพจริงๆ จากตัวกล้อง ไม่ผ่านการรีไซส์หรือปรับแต่งภาพใดๆ ครับ
ดูกันที่ภาพถ่ายแบบธรรมดาๆ กันไปแล้ว ต่อมาเรามาชมฟีเจอร์ใหม่บน iOS 6 กับการใช้งานกล้องถ่ายรูป นั่นก็คือ การถ่ายภาพในแนวกว้าง หรือ Panorama นั่นเอง โดยฟีเจอร์นี้ เป็นฟีเจอร์ที่ฝังมากับตัวกล้อง ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้งานเพิ่มเติมครับ
ซึ่งการใช้งานในโหมด Panorama บน iPhone 5 (ไอโฟน 5) เมื่อเทียบกับการใช้งานแอพพลิเคชั่น Panorama ทั่วๆ ไป ถือว่า สะดวกมากกว่า โดยสามารถหมุนกล้องถ่ายได้เลย จากนั้นระบบจะประมวลผลภาพให้อัตโนมัติ แต่ถ้าหากเป็นแอพพลิเคชั่น Panorama ทั่วๆ ไปนั้น จะต้องค่อยๆ หมุนกล้องทีละนิด ให้ครบองค์ประกอบ จึงจะสามารถถ่ายช็อตถัดไปได้ ซึ่งถ้าเทียบความเร็วในการถ่ายภาพแบบ Panorama บน iPhone 5 (ไอโฟน5) หรือ iOS 6 แล้ว ถือว่า รวดเร็วมากเลยทีเดียวครับ
ปกติแล้ว การถ่ายภาพแบบ Panorama นี้ จะใช้สำหรับถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือภาพที่มีความนิ่งเท่านั้น แต่ความพิเศษของระบบการถ่ายภาพแบบ Panorama บน iOS 6 จะช่วยตัดสิ่งที่เคลื่อนไหวออกขณะถ่ายภาพให้อัตโนมัติด้วย สมมติว่า ขณะกำลังถ่ายอยู่นั้น มีคนเดินผ่านตัดหน้า เมื่อระบบประมวลผลแล้ว จะไม่ปรากฏภาพของคนเดินให้เห็นครับ (จุดนี้ทดสอบแล้ว พบว่า ตัดภาพคนเดินออกจริงๆ ครับ) แต่ถ้าหากขณะที่ถ่ายภาพ แล้วมีคนยืนนิ่งๆ อยู่ ภาพที่ออกมาก็ยังเห็นเป็นคนยืนครับ
สำหรับขนาดภาพจริงๆ ของภาพแบบ Panorama นั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 14MB - 17MB ขนาดกว้างสูงสุดที่ 10800 พิกเซล ขึ้นอยู่กับว่า เราถ่ายกว้างมากน้อยแค่ไหน ลองมาชมตัวอย่างภาพถ่ายแบบ Panorama บน iPhone 5 (ไอโฟน 5) กันครับ
การใช้งาน iOS 6 บน ระหว่าง iPhone 5 (ไอโฟน 5)
นอกจาก ฮาร์ดแวร์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้ดีกว่าเก่า ซอฟต์แวร์ก็ถือเป็นอีกส่วนที่ช่วยให้สามารถใช้งานตัวเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดของแอปเปิ้ลอย่าง iOS 6 นั้นก็มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ มามากมาย ลองมาดูกันครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง โดยทีมงานจะเน้นการทดสอบและ Screenshot จากตัวเครื่อง iPhone 5 จริงๆ ครับ
Safari บน iOS 6
บน iOS 6 นั้น Safari (ซาฟารี) ได้มีการพัฒนาให้สามารถโหลดหน้าเว็บไซต์ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มฟังก์ชั่น การชมเว็บไซต์ แบบเต็มจออีกด้วย ซึ่งเมื่อลองทดสอบเปิดเว็บไซต์ผ่าน iPhone 5 (ไอโฟน 5) ก็จะรู้สึกว่า ได้ขนาดหน้าจอ และตัวอักษร ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน
Apple Maps บน iOS 6
อย่างที่ทราบกันไปแล้วนะครับว่า บน iOS 6 ทางแอปเปิ้ลได้มีการเปลี่ยนจาก การใช้งาน Google Maps เดิมมาเป็น Apple Maps ที่พัฒนาโดยแอปเปิ้ลเอง ซึ่ง Apple Maps นั้นก็มีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจมากมาย เช่น Flyover ที่จะช่วยให้คุณเห็นแผนที่ แบบ 3 มิติที่สวยงาม รวมไปถึงการนำทางแบบ Turn-By-Turn navigation ที่มีผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Siri คอยช่วยบอกทางอีกด้วยครับ
อย่างไรก็ดี การใช้งานแผนที่แบบ 3 มิตินั้น ยังไม่สามารถใช้งานได้ในประเทศไทย นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นการนำทางแบบ Turn-by-turn navigation จะสามารถใช้งานได้ในเดือนตุลาคมครับ
หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น มองเห็นรายละเอียดได้มากขึ้น
สำหรับ iphone 5 (ไอโฟน5) ที่ตัวเครื่องนั้นยาวขึ้น ช่วยให้เราสามารถเห็นรายละเอียดเพิ่มเติมได้มากขึ้น เช่น จำนวนแถวของภาพใน Gallery หรือแม้แต่การเข้าชมเว็บไซต์หรือ Notification ต่างๆ จะมีจำนวนของข้อมูลที่เห็นได้มากขึ้น
คีย์บอร์ด ภาษาไทย แบบ 4 แถว บน iPhone 5
หากเราใช้งาน iPhone รุ่นก่อนหน้า การที่คีย์บอร์ดถูกเปลี่ยนเป็น 4 แถว ซึ่งยาวขึ้นกว่าเดิมนั้น อาจจะทำให้ขนาดที่เพิ่มขึ้น บังหน้าจอเรามากขึ้น แต่บน iPhone 5 ด้วยหน้าจอที่ยาวขึ้น ช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งานในแนวตั้งมากขึ้น ก็จะช่วยให้เรารู้สึกว่า ไม่ได้บังหน้าจอเรามากจนเกินไป
อย่างไรก็ดี ปัญหาของคีย์บอร์ด 4 แถวภาษาไทย สำหรับผู้ใช้งานในไทยนั้น เท่าที่พบปัญหาในขณะนี้ก็คือ เรื่องของการใช้งานครับ เนื่องจากพิมพ์ไม่ถนัด เพราะเคยชินกับคีย์บอร์ดแบบเก่านั่นเอง ซึ่งปัญหานี้แก้ไขได้ไม่ยากครับ เพียงแค่หัดพิมพ์บ่อยๆ จนคล่อง แล้วจะรู้สึกว่า จริงๆ แล้วใช้งานได้ไม่ยากเลย เพราะการเรียง layout ของคีย์บอร์ด 4 แถวนี้ เหมือนกับคีย์บอร์ดบนโน้ตบุ๊ค หรือคอมพิวเตอร์ทั่วไปนั่นเอง และที่สำคัญ สะดวกกว่าคีย์บอร์ดแบบเดิมๆ อีกด้วยครับ
การใช้งาน Personal Hotspot บน iPhone 5
อาจจะยังมีความสงสัยว่า บน iPhone 5 และ iOS 6 นั้นยังคงสามารถใช้งาน Personal Hotspot หรือกระจายสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ ผ่านเครือข่าย ไวไฟ ให้เพื่อนใช้ได้หรือไม่ คำตอบคือ ยังสามารถทำได้ตามปกตินั่นเองครับ โดยเข้าไปเปิดการใช้งานได้ที่ Settings > Personal Hotspot แต่อย่าลืมว่า จะต้องเปิดการใช้งานเครือข่าย 3G บน iPhone ของเราด้วยนะครับ
ความแตกต่างทางด้านดีไซน์ ระหว่าง iPhone 5 (ไอโฟน 5) และ iPhone 4S (ไอโฟน 4S)
สำหรับ iPhone 5 (ซ้าย) นั้นถือว่าบางกว่า iPhone 4S (ขวา) อยู่พอสมควร โดย iphone 5 (ไอโฟน5) บางกว่า iPhone 4S ถึง 18% เลยทีเดียว
ด้านบนของตัวเครื่อง จะแตกต่างกันในส่วนของ พอร์ตเชื่อมต่อชุดหูฟัง ที่ไม่ได้อยู่ด้านบนแล้วนั่นเอง นอกจากนี้ ขอบรอบๆ ตัวเครื่องรุ่นสีดำ Black & Slate นั้น ไม่ได้เป็นสีเงินเหมือนรุ่นก่อนแล้วครับ แต่เป็นสี Slate สีเดียวกับด้านหลังนั่นเอง
ด้านข้าง ในส่วนของ ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด ก็จะมีขนาดที่ต่างกัน เนื่องจากใน iPhone 4S นั้นใช้ micro-Sim แต่สำหรับ iPhone 5 นั้นจะเป็น Nano-Sim
สำหรับภาพนี้ น่าจะตอบคำถาม สำหรับหลายๆ คนได้นะครับว่า ขนาดของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) เมื่อเทียบกับ iPhone 4S แล้วนั้น มีความยาวต่างกันเท่าไหร่ แม้จะไม่มาก แต่สังเกตได้อย่างชัดเจนว่า iphone 5 (ไอโฟน5) ตัวเครื่องยาวขึ้นครับ
ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ถือว่าต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ เนื่องจาก มีการลดขนาดของ พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อและชาร์จไฟ ให้เล็กลง และมีการย้ายช่องสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟัง มาไว้ด้านล่างด้วย
และนี่คือภาพเปรียบเทียบ Dock Connector ของ iPhone 4S (ขวา) และ Lightning connector ของ iPhone 5 (ซ้าย) ซึ่งถือว่าขนาดนั้นต่างกันค่อนข้างมากเลยทีเดียว
มาเปรียบเทียบขนาดของซิมการ์ดกันบ้างครับ โดย iphone 5 (ไอโฟน 5) นั้น ใช้ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM card ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ซิมการ์ดแบบเดิม หรือ Micro-SIM card ถึง 40% เลยทีเดียว ซึ่งในขณะนี้ เครือข่ายในไทยที่ให้บริการ Nano-SIM card แล้ว ก็ได้แก่ Dtac, AIS และ TrueMove H